โรงเรียนธุรกิจห้องน้ำ
ล่าสุด, สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (เนื้อเยื่อ) เพิกถอนการรับรอง มอก 1129 สินค้า.
สมอ. อยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมของประเทศไทยและมีหน้าที่รับผิดชอบในการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย. นอกจากจะเป็นหน่วยงานของรัฐในการบังคับใช้การรับรองในประเทศไทยแล้ว, นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยงานการตั้งค่ามาตรฐานและการจัดการและหน่วยรับรองอีกด้วย. มีทั้งหมด 60 หมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์ที่ต้องได้รับการรับรองภาคบังคับจากรัฐบาลไทยใน 8 สาขา, ได้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริม, อุปกรณ์ทางการแพทย์, วัสดุก่อสร้าง, เครื่องอุปโภคบริโภค, ยานพาหนะ, ท่อพีวีซี, ถังบรรจุก๊าซ LPG และสินค้าเกษตร. หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่ภายใต้การรับรองโดยสมัครใจ. สินค้าจีนเข้าสู่ตลาดไทยต้องได้รับการรับรอง มอก. มีเครื่องหมายรับรองและบางประเภทต้องมีบริษัทไทยเป็นตัวแทนจึงจะสมัครได้.
ตั้งแต่เดือนมกราคม 1, 2016 ถึงเดือนธันวาคม 31, 2018, สมอ.ออกประกาศ 2 ฉบับ และเผยแพร่รายการ 1129 สินค้าที่ถูกเพิกถอนการรับรอง สมอ, รวมทั้ง 707 ประเภทผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, 341 ประเภทของของเล่น, 52 ประเภทของเหล็กและวัสดุก่อสร้าง, 25 ประเภทสุขภัณฑ์เซรามิกและก๊อกน้ำฝักบัว, เครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก 3 ประเภท และกระจกนิรภัยรถยนต์ 1 ประเภท. สินค้าเหล่านี้มากมาย, เช่น เครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก, จะถูกนำเข้า.
บริษัทต่างๆ จะไม่สามารถขอรับใบอนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้เป็นเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่ใบรับรอง สมอ. ถูกเพิกถอน.
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020, สมาคมมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย (เนื้อเยื่อ) ตรวจสอบแล้ว 36 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทีละแห่งและค้นพบ 123 สินค้าที่ถูกจำกัด, ลงโทษบริษัทหลายแห่งที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่ำกว่ามาตรฐานบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของลาซาด้าและช้อปปี้, และยึดสินค้านำเข้าผิดกฎหมายจำนวน 2 รายการจากบริษัทที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปากราว.
ในหมู่พวกเขา, 14,000 สินค้ามูลค่าประมาณ 30 ล้านบาทถูกยึดจากสองบริษัท, บริษัท เจทีแอล สต็อก โฮลดิ้ง จำกัด, บจ. และบริษัท โกรเวลล์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด, บจ. ประจำอยู่ที่กรุงเทพและสมุทรปราการ.
นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังถูกตั้งข้อหานำเข้าสินค้าต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต, ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดสองปีหรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท. ในขณะเดียวกัน, ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้งสองรายยังเผชิญโทษจำคุกสูงสุดหกเดือนหรือปรับสูงสุด 500,000 บาท ฐานฝ่าฝืนกฎหมายการโฆษณา.